Tuesday, 5 May 2009

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ตอนที่ 57


ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ตอนที่ 57

หมอ หลวงโทษว่าที่พระสนมวอนพินแท้งลูก เนื่องจากยาที่พระมเหสีโยอึยนำมาให้กิน พระเจ้าจองโจไม่อยากจะเชื่อ แต่หมอหลวงก็ยืนยันว่าได้บอกพระมเหสีโยอึยไปแล้ว แต่ยังทรงนำมาให้พระสนมกิน ทำให้พระเจ้าจองโจทรงหนักพระทัยยิ่งนัก
พระ มเหสีโยอึยนำ ชาตังกุย มามอบให้พระสนมวอนพิน เพราะจะช่วยขับเลือดสำหรับคนแท้ง แต่พระสนมวอนพินสั่งให้เผาทิ้ง พระพันปีเฮคยองมาเห็นเข้าพอดี
พระเจ้าจองโจทรงมาหาพระมเหสโยอึยที่ ตำหนัก แต่พระนางทรงเข้าไปดูที่ห้องเครื่องเพื่อหายามาบำรุงให้พระสนมวอนพิน พระเจ้าจองโจเสด็จมาเห็นกลับเข้าพระทัยผิด แต่ก็ไม่ทรงว่าอะไร ตรัสถามว่า
“เรื่องอาหารมีห้องเครื่องคอยดูแลอยู่แล้ว ทำไมเจ้าต้องไปสั่งด้วยตัวเองอีก”
” หม่อมฉันได้ยินว่า คนที่แท้งลูกก็เหมือนผ่านการคลอดมา ต้องคอยประคบประหงมเป็นพิเศษ หม่อมฉัน ในฐานะพระมเหสี แม้จะไม่สามารถมีลูกเอง แต่ก็อยากดูแลวอนพินที่เพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา และถือเป็นหน้าที่ของหม่อมฉันด้วยเพคะ ตอนนี้คนที่เสียใจกว่าใคร ก็คือนางไม่ใช่หรือเพคะ ขอเพียงสามารถ ช่วยให้นางมีกำลังใจดีขึ้นเรื่อยๆ หม่อมฉันก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพคะ แต่ว่าฝ่าบาท เสด็จมาหาหม่อมฉันเพราะมีอะไรจะรับสั่งหรือเปล่าเพคะ ถ้ามีก็เชิญรับสั่งได้ หึ ฝ่าบาท”
“ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้คิดว่าไม่จำเป็นต้องถามเจ้าอีกแล้ว”
“อะไรนะเพคะ”
“ข้ารู้สึกละอายต่อเจ้ามากกว่า ที่หูเบาหลงเชื่อคนอื่นง่าย ๆ ทั้งที่รู้อยู่ว่าเจ้าเป็นคนยังไง”
“เอ่อ ฝ่าบาท หลงเชื่อยังไงหรือเพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจที่รับสั่งเลย”
พระเจ้าจองโจเสด็จกลับตำหนัก พระพันปีเฮคยองก็มาเฝ้า
” แม่เพิ่งกลับจากไปเยี่ยมวอนพินมา แต่ว่าจู่ๆ ก็ได้ยินเรื่องเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง นางบอกว่าที่ต้องสูญเสียลูกไป เพราะยาที่ชุงจอนนำไปมอบให้กิน และหมอหลวงก็ได้รายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าแล้วเป็นความจริงหรือเปล่า”
“เสด็จแม่”
” เฮ่อ บอกแม่หน่อยเถอะฝ่าบาท ว่ามันจริงหรือไม่จริง หมอหลวงก็มาบอกเจ้าตามนี้ใช่ไหม แสดงว่าสิ่งที่แม่รู้จากวอนพินเป็นเรื่องจริงล่ะสิ”
“เสด็จแม่สงบสติก่อน หม่อมฉันกำลังให้คนไต่สวนเรื่องนี้อยู่”
“ไต่สวนเรื่องนี้ยังไง หมายความว่า เจ้าก็เชื่อว่าเป็นความจริงหรือ”
“เสด็จแม่ หม่อมฉันจะเชื่ออย่างงั้นได้ยังไง ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ นิสัยชุงจอนเป็นคนยังไง เสด็จแม่ก็ทรงทราบดีไม่ใช่หรือ”
“หึ ใช่ แม่ย่อมรู้นิสัยชุงจอนดี คงไม่หรอก แม่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นนาง”
“เสด็จแม่”
” แต่ว่า ตอนนี้แม่สับสนไปหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่รู้มา แล้วมันแปลว่าอะไร แสดงว่า ทั้งวอนพินและหมอหลวง ร่วมกันโกหกเรางั้นหรือ เฮ่อ โอย เฮ่อ หึ”
พระพันปีเฮคยองทรงเชิญพระมเหสีโยอึยมาพบ
“อะไรกันเพคะเสด็จแม่ หม่อมฉันจะส่งยาที่เป็นผลร้ายต่อวอนพินได้ยังไง นี่เป็นเรื่องเหลวไหลนะเพคะ”
” ข้ายังไม่ได้สรุปว่าเป็นฝีมือเจ้าซักหน่อย และไม่อยากเชื่อด้วยว่าเจ้าจะกล้าทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้จริงๆ แต่ในเมื่อหมอหลวงรายงานมาอย่างงั้น เราจะทำนิ่งเฉยก็ไม่ถูก ฉะนั้นข้าจึงบอกให้รู้ก่อน ว่าจะมีการตรวจสอบยาที่เจ้าส่งไปให้วอนพิน”
“เสด็จแม่เพคะ”
” ป่านนี้คิดว่าสำนักหมอหลวง คงเริ่มตรวจสอบยาที่เจ้านำไปมอบให้วอนพินเมื่อหลายวันก่อน ฉะนั้นรออีกไม่นาน ใครผิดใครถูกก็จะได้รู้แน่ชัดกันไป”


หมอหลวงร้อนรนกลัวความผิดจึงไปพบฮงกุกยอง ขณะที่เขาไล่หมอหลวงไปนั้น เผอิญพระเจ้าจองโจเสด็จมาเห็นเสียก่อน
“ทำไมให้หมอหลวงมาพบท่านที่นี่ บอกมาเร็ว เพราะอะไรถึงให้หมอหลวงมาพบเป็นการส่วนตัว”
“ฝ่าบาท นั่นเป็นเพราะ เอ่อ” ฮงกุกยองอึกอัก
” เพื่อจะถามเรื่องพระมเหสีใช่ไหม มีข่าวว่าที่สนมวอนพินแท้งลูก สาเหตุเกิดจากยาที่พระมเหสีนำไปมอบให้ ท่านคงรู้แล้วสิ ด้วยเหตุนี้ เลยอยากรู้ข้อมูลจากหมอหลวงให้แน่ชัดอีกที”
“เอ่อ ฝ่าบาท”
“ท่านมี ความเห็นยังไงบ้าง หรือท่านก็คิดว่า พระมเหสีกล้าทำเรื่องแบบนี้จริงๆ ข้าอยากฟังความเห็นจากท่าน อยากรู้ว่า ท่านมองเรื่องนี้ยังไงบ้าง”
“เอ่อ พระอาญาไม่พ้นเกล้า หม่อมฉัน คิดว่าก่อนที่เรื่องนี้จะเผยความจริง ยังไม่สะดวกที่จะทูลพ่ะย่ะค่ะ”
” งั้นหรือ ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านมีความคิดแบบนี้ แต่ข้าเชื่อชุงจอนมากกว่า ข้าเชื่อว่า นางไม่ใช่คนที่จิตใจโหดร้ายอย่างงั้น ฉะนั้น จึงไม่อยากให้ท่านหวั่นไหวไปกับคำครหา”
“แต่ว่าฝ่าบาท”
“ข้ารู้ว่า มันยาก แต่ขอให้เชื่อข้าได้ไหม ถ้าเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบจริง ข้าจะสืบให้รู้ว่าคนๆ นั้นเป็นใคร แต่ก่อนหน้านั้น ขอให้เชื่อในสิ่งที่ข้าดำเนินการ ท่านจะทำได้หรือเปล่า”
พระหมื่นปีจองซุนทรงทราบเรื่องก็เรียกแชซกจูมาพบ และให้ตามหมอหลวงมาสอบถาม
ด้าน เทซูก็ทูลพระเจ้าจองโจเรื่องที่ฮงกุกยองให้เขาสะกดรอยตามท่านหมอใหญ่ พระเจ้าจองโจยิ่งมั่นใจว่ามีคนปองร้ายพระมเหสีโยอึย จึงสั่งให้เทซูสะกดรอยตามหมอใหญ่ไป


พวกเทซูสะกดรอยไปถึงหอนางโลม ถูกคนของฮงกุกยองที่ส่งมารับหมอใหญ่ทำร้ายซอจังบูอาการสาหัส พระเจ้าจองโจทรงทราบก็รีบเสด็จมาเยี่ยม ฮงกุกยองเองก็รีบมา พระเจ้าจองโจทรงตรัสว่า พระองค์ยิ่งมั่นใจว่ามีคนปองร้ายพระมเหสี ฮงกุกยองถึงกับอึ้งไป
ซองซงยอนมาพบชางฮงพุกกำลังเก็บของจะออกจากเมืองหลวง เธอขอตามไปด้วย ชางฮงพุกเองก็พยายามจะหนี
“ใต้เท้า จะไปไหนคะ” ชางฮงพุกตกใจ
“เฮ่ย เปล่าหรอก เดินเล่นจนพอแล้ว ข้าจะกลับบ้านได้หรือเปล่า แหะ”
“ถ้าอย่างงั้น เอานี่ไปด้วยละกัน”
“เดี๋ยวก่อน เอาอะไรมาให้ข้า”
“สิ่งที่ขาดไม่ได้เวลาหลบหนี ก็ท่านกำลังจะไปจากเมืองหลวงไม่ใช่หรือ”
“ว้าย นี่ เจ้า รู้ได้ไงน่ะ”
“ท่าน ทำไมชอบตกใจเรื่อยเลย”
“ก็ ตอนเด็กถูกผีหลอกบ่อย เลยกลายเป็นคนใจเสาะ แหะๆ รู้ทันซะหมด เฮ่ย เรื่องที่ข้าจะหนี เจ้ารู้นานแล้วเรอะ”
“ค่ะ รู้นานแล้ว เพราะสีหน้าท่านฟ้องว่า อยากไปจากที่นี่เต็มทน หึๆๆ”
“หึ ใช่ ข้าตั้งใจว่าจะไปเงียบๆ”
“ขอบคุณท่านมากนะคะ ที่ให้ข้าได้เรียนรู้จากท่านหลายอย่าง นอกจากการเขียนรูปแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย”
“เจ้าเรียนรู้จากข้า จริงหรือเปล่า”
“จริงค่ะ หึๆ”
“หึ รู้แล้วทำไมยังอยู่ที่นี่ อย่าคิดมากอีกเลย ตัดทุกอย่างให้ขาดซะ แล้วไปตามหาดวงใจของเจ้า”
“หึ ข้าทำอย่างงั้นไม่ได้ค่ะ เพราะมันสายเกินไป แล้วข้าก็ มาไกลเกินว่าจะหันหลังกลับ”
” เพราะมัวแต่คิดว่าทุกอย่างสายเกิน เจ้าเลยยิ่งเดินไกล นี่ ข้ามีของจะให้เจ้าดู เดี๋ยวนะ แหะๆๆ นี่ก็คือ เมียของข้า ส่วนที่อยู่ข้างๆ คือลูกสาววัยเดียวกับเจ้าและน่ารักพอกัน เห็นพวกนางหรือเปล่า เฮ่อๆๆ เฮ่ย เพราะหลงใหลการเขียนรูป ออกจากบ้านสิบกว่าปี วันหนึ่งพอกลับไปอีกครั้ง พวกนางก็ตายเพราะโรคระบาดหมด”
“เอ่อ ใต้เท้า”
“ข้าเคยคิดจะวาดใบ หน้าของลูกเมีย เพื่อเก็บเป็นที่ระลึก พระพักตร์ของพระราชา ข้าหลับตายังวาดได้โดยไม่ต้องคิดอะไร แต่กับลูกเมีย พอคิดจะวาด กลับนึกหน้าตาไม่ออกซะอย่างงั้น ทุกวันนี้ เจ้าอาจไม่เข้าใจว่า การได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก ทะนุถนอมอีกฝ่าย ตื่นมาก็มีรอยยิ้มให้ นั่นเป็นความสุขแค่ไหน พรสวรรค์กับศิลปะไม่มีความหมายหรอก”
“หึ ค่ะใต้เท้า”
“เฮ่อๆๆ ดูซิ เป็นไง ลูกสาวข้าสวยจริงมั้ย หือ เฮ่อๆๆ”
“ค่ะ”
“นี่ เมียข้าต้องวาดให้ใหญ่หน่อย ส่วนลูกสาวตัวเล็กๆ อยู่ข้างๆ เลยวาดให้เล็กลง เห็นมั้ย หือ ยังไงก็สวยล่ะ จริงหรือเปล่า เฮ่อๆๆ”
นัม ซาโชเข้ามาทูลรายงานว่าพระพันปีเฮคยองสั่งให้ซังกุงตรวจการณ์ไปบ้านเดิมของ พระมเหสีโยอึย เพื่อจับกุมคนที่จัดยา พระเจ้าจองโจทรงเสด็จไปเฝ้าพระพันปีเฮคยองทันที
“ใช่แล้วฝ่าบาท คนที่ซังกุงตรวจการณ์จับกลับมา ล้วนเป็นคำสั่งของแม่เอง”
“เสด็จแม่”
” เพราะเรื่องการแท้งของวอนพิน กลายเป็นข่าวลือที่พูดกันไปต่างๆ นานา และไม่แค่วอนพินคนเดียว แม้แต่ชุงจอนก็กลายเป็นที่ครหาของคนอื่น”
“แต่ว่าเสด็จแม่ เรื่องนี้หม่อมฉันทูลแล้วว่าจะไต่สวนเอง เพราะเกี่ยวถึงความเชื่อมั่น”
” ไม่ถูกนะฝ่าบาท แม่ไม่เห็นด้วยอย่างงั้น เรื่องนี้ ควรเป็นหน้าที่ของฝ่ายในมากกว่า ปกติการตั้งครรภ์ของสนมทุกคน ล้วนอยู่ใต้การดูแลของฝ่ายในทั้งสิ้นไม่ใช่หรือ โดยเฉพาะหมอหลวงบอกว่า ได้ตรวจพบยาที่ชุงจอนส่งไปมี “แพ่กจู” ผสมอยู่จริง แล้วเจ้ายังถ่วงเวลาไว้ ไม่กลัวว่าจะทำให้ผู้คนเสื่อมศรัทธาต่อราชสำนักหรือ”
“เสด็จแม่”
” ต่อให้เห็นแก่ชุงจอน เราก็ต้องทำให้เรื่องนี้มีความกระจ่างอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเจ้าเป็นห่วงนางจริงก็อย่าทำให้เรื่องบานปลาย และไม่ต้องก้าวก่ายในสิ่งที่แม่ทำ มีแต่วิธีนี้ถึงจะนับว่าเห็นแก่ส่วนรวมจริงๆ”
พระเจ้าจองโจรับฟังและถอนพระทัย

พระเจ้าจองโจทรงไม่มีกระจิตกระใจจะประชุม จึงสั่งให้งด พระมเหสีโยอึยเสด็จมาพอดี
“ไม่ได้นะเพคะฝ่าบาท”
“ชุงจอน”
“ฝ่าบาทต้องเสด็จไปทรงงานก่อน ส่วนท่าน ไปบอกให้พวกเขารอซักครู่”
“ชุงจอน”
“ทรงอภัยด้วยเพคะ ฮือ เพราะความไม่ดีของหม่อมฉัน ทำให้ฝ่าบาททรงกังวลจนเสียงาน”
“อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม ข้ารู้ว่าเจ้าบริสุทธิ์ แล้วทำไมยังว่าตัวเองไม่ดีอีก”
“หึ ฝ่าบาท ถ้ายังไงให้หม่อมฉัน ทูลเรื่องบางอย่างจะได้ไหมเพคะ”
“มีอะไรก็พูดมาได้”
“ถ้าฝ่าบาททรงเชื่อว่า หม่อมฉันเป็นผู้บริสุทธิ์จริง งั้นเรื่องนี้ ก็ทำตามรับสั่งของเสด็จแม่ ปล่อยให้ฝ่ายในไปสืบเอง”
“ชุงจอน”
” หม่อมฉัน ได้ยินว่าฝ่าบาททรงเป็นห่วงเรื่องนี้ จนละเลยราชกิจแม้แต่การประชุมก็ให้งด ฉะนั้น ทรงให้ฝ่ายในสะสางจะดีกว่า ส่วนฝ่าบาทก็ทรงงาน”
“ทำยังงั้นไม่ได้หรอก เมื่อข้ารู้ว่าเจ้ากำลังลำบาก จะทำเป็นไม่สนใจ เอาแต่ทำงานได้ยังไง”
” ไม่เพคะ ฝ่าบาทต้องทำอย่างงั้น เพราะนี่คือ หน้าที่ที่พระราชาต้องทรงทำให้ได้ ส่วนหม่อมฉัน แค่รู้ว่าฝ่าบาททรงเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ก็ดีใจมากแล้วเพคะ สิ่งที่หม่อมฉันหวังจะได้ก็คือน้ำพระทัยจากฝ่าบาทเท่านั้น”
“ชุงจอน”
” เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ให้ฝ่ายในจัดการต่อ ส่วนฝ่าบาทก็ดูแลราชกิจเหมือนเดิม ฮือ นี่คือสิ่งที่หม่อมฉันจะทูลขอ ฮือ โปรดอย่าให้หม่อมฉัน ทำให้ฝ่าบาทและราชสำนัก เสื่อมเสียมากกว่านี้อีกเลยเพคะ ฮือ”
ชางแทวูเผชิญหน้ากับฮงกุกยอง เขากล่าวว่า
“เจ้าจะใช้อำนาจที่มีปองร้ายถึงพระมเหสีเชียวหรือ”
“ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด”

” ได้ยินว่าพระมเหสีทรงประทานยาที่เป็นอันตรายต่อพระสนมวอนพินให้เสวย ถ้าหากว่า เรื่องนี้เป็นไปอย่างที่คิด อีกหน่อยคงได้ส่งน้องสาวไปถึงตำแหน่งพระมเหสีด้วยกระมัง”
“พูดจาระวังปากหน่อยนะ นี่เป็นการกล่าวหาข้ารู้ตัวหรือเปล่า”
“กล่าวหาอะไรกัน พูดความจริงหน่อยก็ไม่ได้ ด้วยอิทธิพลของเจ้าในตอนนี้ สามารถทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
“ใต้เท้า”
” หึ รู้มั้ยว่าทำไมคนเราพอมีอำนาจก็จะเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะว่า อยากได้อะไรก็สามารถกรุยทางได้อย่างราบรื่นเหมือนแก้วสารพัดนึก สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นเพราะอำนาจบันดาลให้เป็นไป และมันก็ไม่เคยทำให้ใครเป็นวีรบุรุษ ทุกคนที่ได้ครอบครองเจ้าสิ่งประหลาดนี่ เขาจะเปลี่ยนไปทันที ข้าแทบจะมองเห็นอนาคตเจ้าว่าจะไปทางไหนซะแล้ว ต่อให้ดิ้นรนแค่ไหนก็ตาม เจ้าก็ต้องสยบให้กับคำว่าอำนาจและท้ายสุด จะมีจุดจบไม่ต่างกับคนอื่น เหลือแต่ชื่อให้คนประณาม”
ฮงกุกยองกล่าวอะไรไม่ออก ได้แต่แค้นในใจ
ด้านแชซกจูก็ถามมินจูซีว่า
“ฮึ่ม หึ คิดดีแล้วหรือยัง ตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม”
” ตัดสินใจอะไรครับ ไหนๆ ไม่พ้นต้องถูกฮงกุกยองจับไปทรมานอยู่แล้ว ยังมีทางเลือกไหนเหมาะกับคนอย่างข้าอีก แต่ท่านต้องรับปากข้าเรื่องหนึ่งก่อน ถ้ามีโอกาสเหมาะ ข้าจะได้กลับไปเป็นขุนนางอีกครั้งจริงหรือเปล่า”
“ได้หรือไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับผลงานของเจ้า หึ เอานี่ไปดูซะ”
“นี่คืออะไรหรือครับ”
“งานที่พระหมื่นปีสั่งให้เจ้าทำ”
ขณะที่ซองซงยอนก็มาพบปาร์คยองมุน เพื่อบอกข่าวชางฮงพุก
“อ้อ งั้นหรอกหรือ ข้ายังนึกว่าใต้เท้าชางยงจะปักหลักอยู่เมืองหลวงซะอีก แล้วยังไง เขาไม่ได้บอกว่าจะไปไหนหรือ”
“ค่ะใต้เท้า”
“อึม งั้นก็ช่างเถอะ จริงสิ ฉางบังลมที่เขียนให้พระสนมไปถึงไหนแล้ว”
“อยู่ในช่วงเก็บงาน ไม่นานคงส่งได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้น เจ้าไม่ต้องรีบมากก็ได้”
“คะ?”
“เรื่องของพระสนม ทำให้พระมเหสีถูกต้องสงสัยไปด้วย ผู้ใหญ่จึงสั่งว่าอย่าเพิ่งทำอะไร ให้รอดูสถานการณ์ไปซักพัก หึ”
ซองซงยอนออกมาก็พบกับโชบี
“พี่โชบี จริงสิ ท่านรู้ข่าวเกี่ยวกับพระมเหสีบ้างมั้ย เห็นว่าทรงมีปัญหาเพราะเรื่องพระสนมด้วยหรือ”
“เจ้ายังไม่รู้อีกหรือ ใครๆ บอกว่าที่พระสนมทรงแท้ง เพราะเสวยยาที่พระมเหสีนำไปประทานให้ และบอกว่าพระสนมไม่เคยเสวยยาอื่นเลย”


“อะไรนะ” ซองซงยอนตกใจ
” แต่เจ้าว่าน่าแปลกหรือเปล่า วันก่อนที่เราไปเขียนรูปในวัง จำได้ว่า พระสนมมีการเสวยยาอื่นชัดๆ แล้วไปเกี่ยวอะไรกับพระมเหสีด้วย จำไม่ได้แล้วหรือ ล่าสุดที่เราไปไง เห็นบอกว่า ส่งมาจากพี่ชาย แล้วพระสนมก็รีบไปเสวยน่ะ”
ซองซงยอนรีบไปขอเข้าเฝ้าพระมเหสีโยอึย ตอนแรงซังกุงจะไม่ยอมให้เข้า คิมซังกุงออกมาพบพอดี
“ทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ มีธุระอะไร มานี่ทำไม” คิมซังกุงถาม
“ข้ามีเรื่องสำคัญจะมาทูลพระมเหสี เกี่ยวกับเรื่องยาของสนมวอนพินน่ะค่ะ หึ”
“ผู้หญิงคนนี้ เป็นช่างเขียนที่พระมเหสีโปรดปราน จะมาถวายรายงานเรื่องรูปภาพ พวกเจ้าหลีกไป”
ซังกุงจะไม่ยอม แต่คิมซังกุงปรามและพาซองซงยอนเข้าเฝ้าพระมเหสีโยนอึย
“อะไรนะ จริงหรือนี่ เจ้าบอกว่าวอนพินกินยาของที่อื่นด้วยหรือ”
“เพคะ หม่อมฉันได้ยินมาเช่นนั้น”
พระมเหสีโยอึยทรงตกพระทัยและทรงหอบ “หา”
“พระมเหสี คิดแล้วน่าแปลกนะเพคะ พระสนมเสวยยาจากที่อื่น แล้วทำไมไม่บอกใคร กลับพูดแต่ยาที่พระมเหสีทรงประทานล่ะเพคะ”
“หึ แล้วเจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง พูดมาให้ละเอียดซิว่าเจ้าฟังเรื่องนี้มาจากไหน”
” หลายวันก่อน หม่อมฉันไปเขียนรูปที่ตำหนักพระสนม แล้วพระสนมก็เสด็จมาทอดพระเนตร ไม่ทันไรก็ได้ยินนางในคนหนึ่งทูลให้ไปเสวยยา ที่ใต้เท้าฮงส่งมา เป็นยาอิโมโชน่ะเพคะ”
“เดี๋ยวก่อน เจ้าบอกว่าไงนะ ยาอิโมโชน่ะหรือ”
“เพคะพระมเหสี หม่อมฉันได้ยินว่าอย่างงั้น”
“หา หึ ยาอิโมโช เป็นไปได้ไง หึ เจ้าบอกว่าใต้เท้าฮง ส่งยาตัวนี้ให้วอนพินทั้งที่นางกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือ”
“เพคะพระมเหสี”
พระมเหสีโยอึยเสด็จไปหาพระสนมวอนพิน แชซังกุงจะอ้าง แต่พระมเหสีโยอึยทรงต้องการพบให้ได้
“เอ่อ ทรงอภัยด้วยเพคะ หม่อมฉันสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่อาจถวายการต้อนรับได้”
“ไม่เป็นไร”
“โปรดทรงอภัยเถอะเพคะ ถ้าไม่มีเรื่องด่วนจริงๆ วันหลังค่อยเสด็จมาจะได้ไหมเพคะ”
“ทำไม อยู่ต่อหน้าข้า ทำให้เจ้าอึดอัดหรือไง”
“หม่อมฉันขอบังอาจทูลว่าใช่เพคะ เพราะยาที่พระมเหสีทรงประทาน ทำให้หม่อมฉันต้องสูญเสียลูก แล้วจะให้หม่อมฉันทำใจ”
“งั้นหรือ เจ้าบอกว่าที่เสียลูกไป เพราะยาที่ข้าส่งมาจริงหรือ”
“พระมเหสี”
“แสดงว่าที่แล้วมา ข้าเข้าใจผิดหมด จริงๆ แล้ว เจ้าไม่เคยสูญเสียลูกเหมือนที่เที่ยวบอกใครต่อใคร”
“หา พระมเหสี รับสั่งแบบนี้หมายความว่าไงเพคะ ทำไมหม่อมฉันจะไม่เคยเสียลูก”
“ข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้าก็กินยา “อิโมโช” ด้วย”


พระสนมวอนพินอึ้ง “หา เอ่อ”
” แค่นี้ทำไมต้องตกใจ ยาชนิดนี้ ว่าไปข้าก็รู้จักดีกว่าใคร เพราะสิบกว่าปีที่ผ่าน ข้าต้องกินทุกวัน แค่ได้กลิ่นโชยมาก็รู้ว่าเป็นยาชนิดนี้แล้ว รู้มั้ยว่าทำไมข้าต้องกินยาอิโมโชเป็นประจำ เหตุผลก็เหมือนกับเจ้า กินเพื่อว่า ให้ตัวเองได้ตั้งครรภ์เร็วๆ ฉะนั้น เชื่อว่าเจ้าน่าจะรู้สรรพคุณอีกอย่าง คือยานี่มีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์ก็จริง แต่ถ้าใครตั้งครรภ์สำเร็จ มันจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ จึงห้ามดื่มต่อเป็นอันขาด”
“เอ่อ พระมเหสี”
” นี่เป็นความรู้ทั่วไปที่ผู้หญิงทุกคนต้องรู้ แล้วเจ้าจะไม่รู้ได้ไง อีกอย่าง ถ้ามีหมอจัดส่งมาให้ เขาก็ยิ่งต้องมีความรู้ในส่วนนี้เป็นพิเศษ ที่น่าแปลกใจก็คือ ก่อนหน้าวันที่เจ้าจะแท้งลูก ยังต้องรีบไปกินยาอิโมโชที่ทางบ้านส่งมาให้ ซึ่งจะทำอย่างงั้นเพื่ออะไรอีก ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์มาแต่แรกแต่จะเร่งให้มี”
“หา หึ”
“หลายวันก่อนเจ้าโกรธที่ข้าเอายามาพิสูจน์การตั้งครรภ์ก็เพราะเหตุนี้ด้วยใช่ไหม”
“เอ่อ พระมเหสี ไม่ใช่นะเพคะ ใครว่าหม่อมฉันไม่ได้ตั้งครรภ์ นี่เป็นเรื่องเหลวไหลมาใส่ความหม่อมฉันชัดๆ”
“ถ้าอย่างงั้น ไปตรวจชีพจรก็จะรู้”
“หา”
” ก่อนมานี่ ข้าได้ถามหมอหญิงคนหนึ่ง ถ้าวันนั้นเจ้าเสียเลือดไปมากจริง ตรวจชีพจรเดี๋ยวเดียวก็สามารถรู้ได้ คนที่แท้งลูกและมีการเสียเลือด ภายใน 30 วัน สามารถตรวจชีพจรได้ว่าร่างกายอ่อนแอแค่ไหน เป็นไง ตอนนี้เจ้าคิดว่าจะทำไงต่อดี ให้ข้าตามหมอหญิงมาตรวจชีพจรให้เห็นดำเห็นแดงกันไปข้างหนึ่ง หรือว่า เจ้าจะทูลฝ่าบาทเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทรงทราบก็ตามแต่ใจ”
พระมเหสีโยอึยเสด็จกลับทันที พระสนมวอนพินสั่งให้แชซังกุงตามฮงกุกยองด่วน เผอิญเวลานั้นฮงกุกยองไปพบพระหมื่นปีจองซุน
“รับสั่งให้หาหรือพ่ะย่ะค่ะ”
” ทำไมหน้าตาเคร่งเครียด เหมือนมีความในใจอย่างงั้นล่ะ เห็นเจ้าหน้าตาซีดเซียว ข้าก็อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ ดื่มเร็วเข้า นี่คือน้ำชาที่จะปลอบใจเจ้า”
“พระหมื่นปี ขอทรงอภัย ถ้าจะรับสั่งอะไรละก้อ”
“ข้าจะบอกว่าเจ้า ทำสิ่งที่โง่เขลาอย่างมาก นึกหรือว่า แค่นี้จะปกปิดการตั้งครรภ์เทียมของสนมวอนพินได้น่ะ”
“พระหมื่นปี”
” ข้าให้หมอคนหนึ่งช่วยสืบเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ เจ้าให้ร้านขายยาร้านหนึ่ง ส่งยาอิโมโชไปที่ตำหนักสนมวอนพินเป็นประจำ และมีข่าวว่า เจ้าของร้านขายยานี่ เพราะได้รู้จักใต้เท้าฮงผู้ทรงอิทธิพล จนทุกวันนี้ ไม่ว่าไปไหนก็เที่ยวคุยอวดชาวบ้านไปทั่ว น่าจะรู้บ้างว่า เดี๋ยวนี้เจ้าเป็นคนดังที่ใครๆ ก็รู้จัก ถ้าระวังตัวหน่อย คงไม่สะเพร่าช่วยน้องสาวด้วยวิธีนี้ ลองคิดดู ถ้าเรื่องนี้ไปถึงพระเนตรกระกรรณ ผลจะออกมาเป็นยังไง”
“แล้วนี่แปลว่าอะไร พระหมื่นปีจะทรงขู่หม่อมฉันงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
” หึๆ ขู่อะไรกัน พูดเป็นเล่นน่ะ ทำไมข้าต้องขู่คนอย่างเจ้าด้วย ข้าเคยบอกแล้วว่า นับแต่นี้จะช่วยฝ่าบาททำงาน และสำหรับฝ่าบาทแล้ว ยิ่งต้องการขุนนางที่ภักดีแถมยังปราดเปรื่องอย่างเจ้าคอยถวายงาน เพราะฉะนั้น ถ้าข้าจะช่วยฝ่าบาทจริง ควรเริ่มต้นยังไง ก่อนอื่น ก็คือช่วยเจ้าก่อนไม่ใช่หรือ”
ฮงกุกยองออกมาแชซังกุงก็มาตามไปพบพระสนมวอนพิน พอทราบว่าพระมเหสีโยอึยทรงทราบความจริงแล้วก็รีบไปขอเข้าเฝ้าพระเจ้าจองโจ

จบ ตอนที่ 57

No comments:

Post a Comment