Tuesday 5 May 2009

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ตอนที่56

이산 56회 1차


ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ตอนที่56

พระเจ้าจองโจเสด็จมาเห็นฮงกุกยอง คุยกับหมอหลวงก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฮงกุกยองอ้างว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับยาบำรุงที่พระมเหสีโยอึยนำมาให้พระสนม วอนพิน
ฮงกุกยองบอกพระสนมวอนพินว่าหากมีคนรู้เรื่องที่นางตั้งครรภ์ไม่ เป็นความจริง พระสนมวอนพินไม่เพียงจะถูกปลดเป็นสามัญชน ทั้งยังจะนำภัยพิบัติมาสู่วงศ์ตระกูลอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ฮงกุกยองจึงหาทางออกให้วอนพินโดยสร้างสถานการณ์ให้พระสนม วอนพินแท้งลูก
พระหมื่นปีจองซุนเสด็จมาเฝ้าพระเจ้าจองโจ
“พระหมื่นปีเสด็จมานี่ทำไมไม่ทราบ”
” หึ ฝ่าบาทมาแล้วหรือ ข้าอยากรู้ว่าห้องทำงานของฝ่าบาทหน้าตาเป็นไง เลยถือวิสาสะเข้ามาก่อน แต่พอเห็นห้องทำงานนี้แล้ว รู้สึกทั้งตื้นตันและปลื้มใจอย่างมาก ที่น่าตื้นตันนั้น คือฝ่าบาทเจริญรอยตามเสด็จปู่จนน่าชื่นใจ ดวงพระวิญญาณคงจะได้เป็นสุขแน่”
จากนั้นพระหมื่นปีจองซุนก็บอกจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้
“หม่อมฉันไม่เข้าใจที่รับสั่ง จะให้ขับไล่ไต้เท้าชางกลับไปเมืองชางยอง อย่างงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
” ใช่แล้วฝ่าบาท ใต้เท้าชางแทวู จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่ออนาคตของฝ่าบาท ฉะนั้นสิ่งสำคัญตอนนี้ คือกำจัดเขาให้พ้นทางซะ หากทำได้เช่นนี้ ข้าก็จะสามารถดูแลให้เหล่าขุนนางเชื่อฟังและทำงานเพื่อฝ่าบาท เป็นกำลังสำคัญ ในการบริหารราชกิจต่อไป”
“เพื่อเห็นแก่หม่อมฉัน พระหมื่นปีจะคอยคุมไม่ให้พวกเขาแตกแถวงั้นหรือ”
“ถูกแล้วฝ่าบาท เหมือนที่ข้าเคยบอก ขอเพียงสามารถช่วยฝ่าบาทได้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม”
” พระหมื่นปี ถ้าอยากช่วยหม่อมฉันจริง ก็เชิญกลับไปดีกว่า สิ่งที่จะทรงทำเพื่อหม่อมฉันและบ้านเมืองได้ ก็คือ ไม่ต้องทรงทำอะไรทั้งสิ้น”


“งั้นก็ได้ ถ้าอย่างงั้น ข้าก็ไม่อยากฝืนใจ เพราะข้าไม่เข้าใจความคิดของฝ่าบาท เป็นห่วงเกินเหตุ จึงมาพูดเรื่องที่ไร้สาระ”
“ฝ่าบาท ใต้เท้าแชมาขอเฝ้าเพคะ”
แชซกจูเข้ามา พระเจ้าจองโจตรัสถาม “มีอะไรหรือท่าน”
“ทูลฝ่าบาท เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ได้ข่าวว่ามินจีซูที่จะมารับการไต่สวน ทำร้ายทหารแล้วหลบหนีไปพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ”
“ตอนนี้ ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกส่งตัวมารักษาในวัง ถ้าไง ฝ่าบาททรงไปเยี่ยมพวกเขาหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้น ข้าคงต้องขอตัวก่อน แต่ยังไง ใต้เท้าชางคือขวากหนามสำคัญของฝ่าบาท เรื่องนี้จงอย่าลืมซะล่ะ”
พระเจ้าจองโจเสด็จไปดูพวกทหาร และสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ขณะที่ฮงกุกยองทูลว่า
“อยู่ดีๆ มินจูซีหนีไปได้ ต้องเป็นฝีมือใต้เท้าชางแน่พ่ะย่ะค่ะ”
“อย่าเพิ่งด่วนสรุปอย่างงั้น เขาเป็นคนเถรตรง ไม่ชอบทำอะไรลับหลัง คิดว่าคงไม่ทำเรื่องแบบนี้”
” ต้นไม้ต่อให้ตรงแค่ไหน ย่อมมีกิ่งก้านที่เอนเอียงบ้าง ใครก็ตามเมื่อถึงคราวคับขัน ย่อมจะหาวิธีเอาตัวรอด แม้จะเป็นใต้เท้าชางก็ไม่แตกต่าง ฝ่าบาท ที่เคยรับสั่งให้หม่อมฉันรับผิดชอบคดีนี้ ยังทรงจำได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้ายังจำได้”
“หม่อมฉัน จะจัดการเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ หม่อมฉันจะลงโทษให้หนัก เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูพ่ะย่ะค่ะ”
“ลงโทษให้หนักหรือ ท่านคิดจะทำไงน่ะ” แชจีคยอมถาม
“ยังไงก็ตาม โปรดให้หม่อมฉัน มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อดีกว่า ฝ่าบาท”
“งั้นก็ได้ เห็นท่านอาสาแข็งขัน ข้าจะมอบให้ดูแลละกัน แต่ยังไง ต้องทำงานให้รอบคอบด้วยล่ะ”
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางหลายท่านถูกเรียกมาไต่สวนต่างไม่พอใจการกระทำของมินจูซี เทซูรีบมาตามชางแทวูบอกว่าฮงกุกยองกำลังรอเขาอยู่
“อะไรกันนี่ไต้เท้าฮง”
“ท่านโปรดรอซักครู่ ข้าอ่านรายงานใกล้จะจบ เดี๋ยวค่อยคุยกับท่าน”
“รู้มั้ยว่านี่เป็นการเสียมรรยาทแค่ไหน”


“ข้าบอกแล้วว่ากำลังยุ่งอยู่ ท่านจะรอหน่อยไม่ได้หรือไง”
“ถ้าเจ้าไม่คิดลบหลู่ข้าจริงแล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ ทำเหมือนไม่สนใจข้า ยังไม่รีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วลุกขึ้นมาคำนับข้าอีก”
” ข้าว่าท่านน่ะ คงเข้าใจอะไรผิดซักอย่าง ท่านถูกเชิญมา เพื่อรับการไต่สวนเกี่ยวกับเรื่องคดี จึงไม่มีสิทธิ์มาวางอำนาจหรือตะโกนใส่ข้าแบบนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากถูกคนของข้าจับไปลงโทษ ขอให้ท่านคิดดีๆ แล้วค่อยตอบคำถามข้าจะดีที่สุด”
“หึ เจ้าจะถามอะไร เกี่ยวกับเรื่องใต้เท้ามินจูซีใช่ไหม ข้าขอบอกเลยว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ถ้าไม่เชื่อละก้อ คิดจะไต่สวนข้ายังไง ก็เชิญตามสบายเถอะ แต่ว่าขอให้ปล่อยคนข้างนอกทั้งหมดก่อน เพราะไม่มีเหตุผลที่จะคุมตัวพวกเขาไว้”
“เสียใจด้วยใต้เท้า กว่าจะมีโอกาสเล่นงานพวกเขาให้สาสม เรื่องอะไรยอมปล่อยตัวไปง่ายๆ”
“ใต้เท้าฮง”
” ท่านเห็นแต่ละคนที่ถูกข้าจับมาหรือเปล่า ขุนนางทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนเคยเชื่อฟังท่าน เดินออกจากท้องพระโรง แสดงความกระด้างกระเดื่องต่อฝ่าบาท เพราะฉะนั้น ข้ายังต้องขอบคุณท่านด้วยซ้ำที่ทำให้เรื่องบานปลาย ด้วยบารมีของท่าน ข้าเลยสบช่องได้เล่นงานพวกเขาให้สะใจหน่อย โทษของการขัดรับสั่งพระราชา จะเป็นยังไงนั้น ข้าจะให้พวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจน”
“งั้นหรือ แต่ว่า ข้าว่าไม่ใช่ขัดพระบัญชาหรอก แต่จะให้ทุกคนเห็นว่าการเป็นศัตรูกับฮงกุกยอง จะมีผลยังไงมากกว่ามั้ง”
“หึ งั้นก็แล้วแต่ท่านจะคิด แต่ยังไงก็ตาม ข้าจะให้รู้ว่าการขัดพระบัญชา หรือไม่ทำหน้าที่ขุนนางนั้น จะมีผลอันน่าประทับใจยังไง”
ชางแทวูแค้นมาก “เจ้า”
เหล่าขุนนางมาร้องบอกให้พระเจ้าจองโจพิจารณา ทรงย้อนถามว่าจะให้พิจารณาอะไร ชางแทวูจึงทูลว่า
” ฝ่าบาท ขณะนี้ใต้เท้าฮงกำลังใช้มาตรการรุนแรงกับเหล่าขุนนาง โดยเอาเรื่องใต้เท้ามินเป็นข้ออ้าง เพื่อกลั่นแกล้งเหล่าขุนนางชัดๆ พ่ะย่ะค่ะ”


“น่าขำจริงๆ ก่อนหน้านี้จำได้ว่า พวกท่านเรียกร้องให้ข้าจับคนร้ายที่ทำร้ายเหล่าขุนนาง แถมยังว่ายังไงก็ต้องเอาเรื่องให้ได้ ไม่เพียงแค่นี้ พวกท่านยังมากดดันข้าอีกว่า ถ้าสืบไม่ได้ความก็ให้เอาผิดกับฮงกุกยอง แต่พอมาวันนี้ เขาเพิ่งทำงานได้ไม่เท่าไหร่ พวกท่านกลับบอกว่าเกินไปซะแล้ว ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง เราก็จับแพะรับบาปมาแทนไม่ดีกว่าหรอกหรือ เพราะถ้ามีการไต่สวนจริง ก็หาว่าใช้อำนาจเกินไปซะอีก”
“ฝ่าบาท”
” ใครผิดก็ว่าตามผิด ใครไม่ได้ทำก็ไม่ต้องร้อนตัว สิ่งที่ฮงกุกยองกำลังทำอยู่นี้ ไม่ได้เกินขอบเขต แต่เป็นไปตามคำสั่งของข้า ใครที่ไม่ให้ความร่วมมือ ข้าจะถือว่ารู้เห็นกับคนร้าย มีการลงโทษอย่างหนัก จึงขอบอกไว้ล่วงหน้า เข้าใจหรือยัง”
แชซกจูมาถามพระหมื่นปีจองซุนว่าไม่ทรงคิดทำอะไรบ้างหรือ พระหมื่นปีจองซุนตอบว่า
” ปล่อยเขาไปแหละดีแล้ว ปล่อยให้ฮงกุกยองเหิมเกริมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ เพราะวิธีนี้ จะทำให้เขามีช่องทางได้กดดันชางแทวูจนแทบไม่กล้าแผลงฤทธิ์อีก โดยเฉพาะให้เหล่าขุนนางเกลียดชังเขา ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อเรา ไม่ว่าคิดยังไง เราก็มีแต่ได้กับได้สถานเดียว จริงสิ งานที่ข้าสั่งไปถึงไหนแล้ว”
“หม่อมฉันจัดการให้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
แช ซกจูไปบอกมินจูซีว่าพระหมื่นปีคือคนที่ช่วยเขาไว้ ขณะที่ชางแทวูไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย และยังบอกให้เขาไปทูลพระนางว่าจะยินยอมเป็นพวกเดียวกับพระนาง


ขณะที่แชจีคยอมก็ถามพระเจ้าจองโจว่า เรื่องของมินจีซู จะให้ฮงกุกยองจัดการจริงหรือ
“ทำไมมาถามข้าแบบนี้”
” เพราะเท่าที่รู้ ดูเหมือนใต้เท้าฮงจะทำอะไรที่เกินเลยมากไป ด้วยเหตุนี้ ให้เขารับผิดชอบคนเดียวดูจะไม่เหมาะนัก ถ้าไง ให้เขามาชี้แจงเรื่องนี้ดีมั้ยพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกท่าน ข้าคิดว่าเรื่องนี้จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเขา”
“แต่ว่าฝ่าบาท”
” จนวันนี้ เขายังเป็นขุนนางที่ข้าไว้วางใจที่สุด และคิดว่าอนาคต ความภักดีของเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยน แม้แต่ท่านเอง ก็เคยบอกว่าไม่เคยเห็นคนหนุ่มคนไหนที่ฉลาดเหมือนเขา แถมยังมีความกล้าไม่ใช่หรือ การจะมอบอำนาจให้เขาทำงานบางอย่าง มันคงเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้อำนาจไป แล้วเขาจะไปใช้กับอะไรบ้าง ก็ปล่อยให้เรียนรู้และรับผิดชอบกันเอง เขาเป็นคนฉลาดก็จริง แต่ไม่แน่อาจตายเพราะความฉลาดก็ได้ใครจะรู้ มันเป็นประสบการณ์ที่ต้องผ่าน แต่ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ข้าก็เชื่อว่าคนๆ นี้ จะได้รับบทเรียนจากการกระทำของเขา ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น”
เหล่าขุน นางเกรงว่าจะโดนข้อหา จึงพากันเอาใจฮงกุกยอง ยิ่งทำให้ฮงกุกยองยิ่งผยอง และบอกกับเหล่าขุนนางว่า เวลาประชุมไม่ควรขัดรับสั่งของพระเจ้าจองโจหรือแสดงความเห็นกันมากนัก


ใน งานเลี้ยงวันเกิดของพระสนมวอนพิน พระสนมวอนพินสร้างสถานการณ์ว่าแท้งลูก อีกด้านหนึ่งนั้น เมื่อพระพันปีเฮคยองรู้เรื่องนี้ก็เป็นลมหมดสติไป
พระเจ้าจองโจทรงรีบเสด็จมาเฝ้าพระพันปีเฮคยอง
“เสด็จแม่ทรงเป็นไงบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้นะ มันเกิดขึ้นได้ยังไง อุตส่าห์รอมาตั้งนาน พริบตาก็หมดไปซะอย่างงั้น ฮือ”
“ทั้งหมดนี้ เพราะความไม่ดีของหม่อมฉันเอง ทรงอภัยให้หม่อมฉันเถอะพ่ะยะค่ะ เสด็จแม่” พระพันปีเฮคยองทรงเอาแต่ร้องไห้
พระเจ้าจองโจเสด็จออกมาก็ยังคงพบกับพระมเหสีโยอึย
“ชุงจอน”
“หึ ฝ่าบาท”
“ทำไมยังไม่กลับตำหนักอีก ดึกป่านนี้ยังมาอยู่แถวนี้ล่ะ”
” หม่อมฉัน ไม่อยากกลับไปที่ตำหนักเพคะ วอนพินแท้งลูก เสด็จแม่ก็เสียพระทัยจนหมดสติ หม่อมฉันเป็นคนบาปแท้ๆ จะกลับไปนอนสบายที่ตำหนักได้ยังไง หม่อมฉันทำไม่ได้หรอกเพคะ”
“คนบาปอะไรกัน เหลวไหลนัก ใครบอกให้เจ้าพูดแบบนี้”
” เป็นความจริงเพคะ ทุกอย่างนี้ เพราะความบกพร่องของหม่อมฉันเป็นต้นเหตุ หม่อมฉัน เป็นมเหสีของฝ่าบาท แต่กลับไม่มีทายาทซักคน ตอนนี้ แม้แต่วอนพินก็สูญเสียลูกไป สาเหตุก็เพราะ หม่อมฉันไม่ได้ดูแลนางให้ดีถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ หม่อมฉัน ฮือ ไม่รู้จะไถ่บาป ให้แก่ราชวงศ์ของเรายังไงดีแล้วเพคะ”
“ชุงจอน เจ้าอย่าคิดแบบนี้ได้ไหม ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเป็นชะตาลิขิต สิ่งที่มนุษย์เราไม่อาจฝืนได้ จะถือเป็นความผิดเจ้าคนเดียวได้ยังไง”


“ฮือ ฝ่าบาทเพคะ ฮือ”
พระเจ้าจองโจทรงรู้สึกผิดที่ไม่ดูและพระสนมวอนพิน ถึงกับตรัสขอโทษฮงกุกยอง ยิ่งทำให้ฮงกุกยองรู้สึกผิดในใจอย่างมาก
พระ พันปีเฮคยองจะให้พระเจ้าจองโจไต่สวนเรื่องที่พระสนมวอนพินทรงแท้ง ฮงกุกยองรีบมาคุยกับหมอหลวงที่คิดจะพูดความจริง ฮงกุกยองจึงนำเรื่องที่เขารับสินบนจากร้านขายยาหลายแห่งมาขู่ และสั่งให้หมอหลวงหาสาเหตุการแท้ง
ขณะที่พระหมื่นปีจองซุนก็ทราบจากซัง กุงว่าเห็นฮงกุกยองคุยกับหมอหลวง ทำให้พระนางสงสัย และยิ่งเห็นฮงกุกยองนิ่งเฉย ทั้งที่เขาน่าจะไม่พอใจ จึงให้ซังกุงไปเชิญหมอหลวงมาพบ
เทซูมาพบฮงกุกยองเอาแต่ดื่มเหล้าก็แปลกใจว่าทำไมไม่รีบไปตามจับคนที่ปองร้ายพระสนมวอนพิน
“ข้ารู้สึกว่าตัวเอง เหมือนย่ำอยู่ในโคลนตมซะแล้ว”
“ใต้เท้า”
“เข้าใจหรือเปล่าเทซู ทุกวันนี้ ยิ่งเดินหน้าเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งรู้สึกถลำลึกลงไปทุกที ฮึ่ม”
ด้าน หมอหลวงก็มาทูลพระเจ้าจองโจถึงสาเหตุการแท้ของพระสนมวอนพินว่าน่าจะมาจากยา บางชนิดที่นำมาจากข้างนอก พระเจ้าจองโจตรัสถามว่าใครนำมาถวาย หมอหลวงอ้างว่าพระมเหสีโยอึย พระเจ้าจองโจถึงกับทรงอึ้งไป

จบ ตอนที่56

No comments:

Post a Comment