Friday 5 June 2009

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ดอนที่ 73


ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ดอนที่ 73

องค์ชายมุนโฮออกหัด ทำให้มีผื่นทั่วใบหน้าและมีไข้สูง บรรดาหมอหลวงถูกเรียกตัวเข้าวังหลวง แต่แล้วองค์ชายมุนโฮก็ต้องเสียชีวิต พระสนมซองซงยอนไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกจะจากนางไป นางได้แต่กอดศพลูกชายร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
“ฮือ เซจา ลูกแม่ ไม่นะ ฮือ ไม่จริง ลืมตามาเดี๋ยวนี้ ได้โปรดลุกขึ้นมาพูดกับแม่หน่อย แม่บอกให้ตื่นไง ฮือ ไม่นะ อย่าทิ้งแม่ไปแบบนี้ ลูกแม่ ฮือๆๆ เจ้าไม่รักแม่แล้วหรือ ฮือๆๆ ลูกแม่ ฮือๆๆ ฮือๆๆ ลูกรักของแม่ ฮือๆๆ ลูกแม่ ทำไมทิ้งแม่ไปแบบนี้ ฮือๆๆ”
การจากไปขององค์ชายมุนโฮ สร้างความเสียใจให้กับทุกคนอย่างมาก ทำให้พระมเหสีโยอึยต้องดูแลทั้งพระพันปีเฮคยอง พระสนมซองซงยอน และทรงดูพระสนมซองซงยอนเป็นพิเศษ เพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่
หมอหลวงจะมาตรวจครรภ์แต่พระสนมซองซงยอนไม่ยอมให้ตรวจ พอดีพระเจ้าจองโจเสด็จมาและพาออกมาเดินเล่น
“ออกมาเดินแบบนี้จะดีหรือ เจ้าไม่ค่อยสบายนัก ข้าว่าไม่ควรออกมาตากลม”
“หึ ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันสบายดี”
“แล้วเมื่อกี้ ทำไมไม่ยอมให้หมอตรวจชีพจรล่ะ ข้าอยู่ข้างนอกเผอิญได้ยิน เจ้าไม่ยอมให้หมอหญิงตรวจชีพจร ใช่หรือเปล่า”
“เอ่อ ฝ่าบาท นั่นเป็นเพราะ”
“ซงยอน จะยังไงก็ช่าง อย่าให้ตัวเองเสียสุขภาพเด็ดขาด เข้าใจที่พูดใช่ไหม”
“หึ เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันเข้าใจ ต่อให้ เห็นแก่ลูกในท้อง,หม่อมฉันก็ต้องดูแลตัวเองอย่างดี ฝ่าบาทไม่ต้องทรงเป็นห่วงหรอกเพคะ”
พระสนมซองซงยอนเรียกให้เทซูมาพบ
“มาแล้วหรือ นั่งลงสิ ดูเหมือนว่านานเต็มที ที่เราไม่ได้เจอกันแบบนี้นะ”
“พะยะค่ะ”


“หึ มองอะไร อย่าทำหน้าอย่างงั้นสิ ข้าไม่ได้เป็นไร อย่าห่วงเลย”
“พระสนม”
“เอ่อ จริงๆ แล้วคือ ข้ามีเรื่องบางอย่างจะขอไหว้วานเจ้า”
“ไหว้วานหรือ”
“อึม เจ้าออกไปข้างนอก หาหมอให้ข้าซักคนได้ไหม”
“พระสนม จะหาหมอชาวบ้านหรือพะยะค่ะ”
“อึม ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี และพามาพบข้า อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด จะทำได้ไหม”
“แต่หม่อมฉันไม่เข้าใจ ในวังมีหมอหลวงมากมายอยู่แล้ว ทำไมต้องหาหมอชาวบ้านอีก”
“เรื่องนี้ ไว้วันหลังข้าค่อยบอกเจ้า เอ่อ อีกอย่าง อยากให้เจ้ารับปากเรื่องหนึ่งด้วย เรื่องนี้ ห้ามไปทูลฝ่าบาท ที่สำคัญ ถ้าข้าไม่อนุญาต เจ้าห้ามถามหมอว่าข้าเป็นอะไร ทำไมต้องให้เขามาพบ หรือว่าข้ามีจุดประสงค์อื่นกันแน่”
“แต่ว่าพระสนม”
“ถือว่าข้า ขอร้องเจ้า ในฐานะเพื่อนเก่าเถอะนะ ถ้ายังไง โปรดรับปากข้า ปิดเป็นความลับได้ไหม รับปากข้ามาเร็ว”
เวลานั้นพระเจ้าจองโจทรงงานอยู่กับชองยายง
“อึ๊บ นี่คืออิฐก้อน ที่ผสมดินแดงแล้วนำไปเผาพะยะค่ะ มีความแข็งแกร่งคงทนเป็นพิเศษ ไว้สำหรับสร้างกำแพงเมือง จะดูสวยงามและมั่นคง”
“แต่การใช้อิฐสร้างบ้าน ในสมัยโกคูรยอก็ไม่ค่อยนิยมแล้วนี่นา” พระเจ้าจองโจตรัส
“แต่ว่าฝ่าบาท ที่ต้าชิงไม่เพียงแต่กำแพงเมืองเท่านั้น แม้แต่บ้านคนก็นิยมสร้างด้วยอิฐพะยะค่ะ”
เชกาเห็นด้วย “นั่นสิพะยะค่ะ ถ้าใช้ก้อนหินนอกจากขนส่งลำบากแล้ว ยังเสียทั้งเงินและเวลาโดยใช่เหตุ”
“ไม่เพียงแค่นี้ ความคงทนก็น้อยกว่า ความสวยงามก็สู้ไม่ได้ด้วย”
“ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ด้วยวิทยาการของเรา ยังไม่พอที่จะผลิตก้อนอิฐที่มีความคงทนถาวรนี่นา”
“อ้อ ถ้าไม่ดีจริง หม่อมฉันคงไม่ทูลเชิญมาทอดพระเนตร หม่อมฉันได้สร้างโรงงานที่เมืองซูวอน สามารถแก้ปัญหาที่ฝ่าบาททรงกังวลได้หมดพะยะค่ะ”
เมื่อจะเสด็จเข้าตำหนักทรงกำชับกับพวกเทซูว่า
“คราวก่อนที่มีคนบุกรุกวังหลวง เราแทบจับมือใครดมไม่ได้ แต่เชื่อว่าพวกเขา คงไม่ได้หวังจะฆ่าข้า แต่ต้องการของบางอย่างที่อยู่กับข้ามากกว่า ถ้ารู้ว่าเราจะสร้างเมืองใหม่ พวกเขาต้องมาก่อกวนแน่ ข้าจึงอยากให้พวกเจ้าไปอยู่กับคนทำงานที่นั่น เผื่อมีอะไรน่าสงสัย จะเป็นเบาะแสบ้าง”
“พะยะค่ะฝ่าบาท”
ขณะที่เทซูพาหมอมาให้พระสนมซองซงยอนเรียบร้อย หมอตรวจอาการแล้วตกใจมาก พระสนมซองซงยอนเห็นอาการของหมอก็รู้ทันที



“หึ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้าคลำเจอก้อนเนื้อที่ใต้อก เลยไปอ่านตำราแพทย์ บวกกับอาการข้างเคียงที่เป็น คล้ายกับโรคเนื้อร้ายไม่มีผิด เลยเชิญท่านมาตรวจให้แน่ใจอีกที เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง ที่ข้าสันนิษฐาน คงไม่ผิดใช่ไหม”
“ทรงอภัยด้วย พะยะค่ะ ถ้าอย่างงั้น หม่อมฉันขอทูลพระสนมว่า โรคที่ทรงเป็นอยู่ คือเนื้อร้ายจริงๆ พะยะค่ะ อีกทั้งอาการลุกลาม อยู่ในขั้นที่น่าเป็นห่วง หม่อมฉันขอเสนอให้แจ้งสำนั กหมอหลวง เพื่อทำการรักษา”
“อีกนานมั้ย ข้าจะอยู่อีกนานแค่ไหน”
หมอชาวบ้านอึกอัก “เอ่อ”
“ข้ารู้ว่าโรคแบบนี้ เทวดาก็รักษาไม่หาย ฉะนั้นจงบอกมาสั้นๆ ข้าจะมีเวลาอีกเท่าไหร่ หึ บอกให้ข้ารู้ตามตรง ท่านหมอ”
“เอ่อ คือ เรื่องนี้ หม่อมฉันคงไม่อาจให้คำตอบที่แน่ชัดได้ โรคประเภทนี้ แม้จะอยู่ในขั้นรุนแรง แต่หากกินยา ประเภท “อุนแบวอน” หรือว่า “โยยีตัน” อย่างต่อเนื่อง ก็พอจะช่วยประทังได้”
“ไม่ ข้าจะไม่กินยา”
“หา อะไรนะ”
“อุนแบวอนเป็นยาที่มีฤทธิ์แรง คนที่กินมากๆ อาจมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์”
“เอ่อ แต่ว่าพระสนม ถ้าไม่ยอมเสวยยาประเภทนี้”
” เข้าใจผิดแล้ว ที่ข้าเชิญมา ไม่ใช่ให้มาเกลี้ยกล่อมข้า หึ ที่อยากรู้ก็แค่ว่า ถ้าผู้ป่วยที่ไม่รับยาชนิดไหน ปกติจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ หึ ท่านตอบมาตามนี้ก็พอ หึ อยู่ได้อีกหลายเดือนจนกว่าจะคลอดลูก เป็นไปได้หรือเปล่า ข้าจะมีความหวังขนาดนั้น ฮือ จะเป็นไปได้มั้ย”
หมอชาวบ้านอึ้ง “พระสนม”
ใน ที่สุดหมอก็บอกว่า “ถ้าสวรรค์เมตตา ไม่ให้อาการกำเริบเร็วนัก ไม่แน่ว่า อาจจะอยู่ถึงวันที่มีประสูติกาล แต่ว่า กว่าจะถึงวันนั้นจะทรงทรมานมาก เพราะทุกวันนี้ อาการเจ็บปวดก็เริ่มมีแล้ว ยิ่งถ้าไม่เสวยโอสถ ใครก็ยากจะต้านทานความเจ็บปวดได้นะพะยะค่ะ”
พอหมอออกมาเทซูก็ถามว่าพระสนมมีเรื่องอะไร พอดีพระสนมซองซงยอนออกมาห้ามไม่ให้หมอบอก แล้วก็ขอร้องเทซูไม่ให้ทูลอะไรกับพระเจ้าจองโจ เทซูจึงนิ่งไป
ชองยายงให้พวกคังซกกีมาช่วยงาน ทำให้พวกเขาเจอหน้าคนร้ายที่หลบหนีไป เขาจับมาคาดคั้นจนรู้ว่าผู้ที่บงการเขาคือมินจูซี แล้วพากันไปตรวจค้นที่บ้านผุกชุน แชซกจูรีบรายงานให้พระหมื่นปีจองซุนทราบทันที พระหมื่นปีจองซุนทรงตกพระทัยมาก
ด้านเทซูก็กลับมาทูลรายงานพระเจ้าจองโจ
“แม้จะตรวจค้นบ้านนั้นจนทั่ว แต่ดูเหมือนนักโทษจะรู้ตัวเลยหนีไปก่อน ทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ”
“ถ้าหนีก็คงไปไม่ไกล ส่งทหารไปตามล่าอีก ยังไงก็ต้องจับมาให้ได้ เข้าใจมั้ย”
“พะยะค่ะ น้อมรับพระบัญชา หึ”
พระเจ้าจองโจมีรับสั่งกับแชจีคยอมว่ายังไงก็ต้องจับตัวมินจูซีมายันความผิดของพระหมื่นปีจองซุนให้จงได้
พระสนมซองซงยอนทรงหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาก็ไม่ยอมให้ หมอหลวงตรวจ แม้พระมเหสีโยอึยจะเข้ามาขอร้อง พระสนมซองซงยอนยังขอออกไปอยู่นอกวัง
“พระมเหสีเพคะ หม่อมฉันขอบังอาจ ทูลขออนุญาตซักเรื่องได้ไหม หม่อมฉัน อยากไปอยู่ข้างนอกซักพัก จนกว่าจะถึงกำหนดคลอดได้ไหมเพคะ”
“จะไปอยู่ข้างนอกหรือ”
“ใช่แล้วเพคะ”
พระมเหสีโยอึยสงสารพระสนมซองซงยอนจึงไปทูลพระพันปีเฮคยองให้
“งั้นหรือ นางบอกว่าจะไปอยู่ข้างนอกหรือไง”
“เพคะ เพราะหลังจากเสียลูกไป นางก็แทบไม่มีความสุข จึงขออนุญาตไปอยู่ข้างนอกเพคะ”
“ก็น่าอยู่หรอก เรื่องแบบนี้มันน่าเห็นใจ เอาเถอะ ตามใจนางก็ได้ เผื่อบางทีจะเป็นผลดีต่อลูกในครรภ์ งั้นเจ้าก็ช่วยจัดหาบ้านที่สะดวกสบาย ให้นางไปพักผ่อนเถอะนะ”
“เพคะเสด็จแม่”


ขณะที่เทซูรู้ข่าวพระสนมซองซงยอนหมดสติ แถมยังไม่ให้หมอตรวจ ก็ยิ่งสงสัย เขาจึงกลับไปหาหมอที่พาไปตรวจอาการพระสนมซองซงยอนจนรู้เรื่องโรคเนื้อร้าย
ด้านพระสนมซองซงยอนก็มาทูลลาพระเจ้าจองโจ
“เฮ่อ จะไปอยู่ข้างนอก จำเป็นอย่างงั้นเชียวหรือ”
“หึ ทรงอภัยด้วยเพคะ”
” เพราะคิดถึงลูก เลยไม่อยากอยู่นี่ล่ะสิ ใช่ ขนาดข้ายังเกือบจะแย่ แล้วนับประสาอะไรกับเจ้า ข้ายังหวังให้เจ้าอยู่ในวังอีก คงจะเป็นการฝืนใจมากไป”
“ฝ่าบาท”
“แต่ว่า ทำไมต้องไปถึง “ฮาชอง” ในเมืองก็มีบ้านให้เลือกเยอะแยะ ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้น”
“หึ น้องชายหม่อมฉัน ไปอยู่ที่นั่นน่ะเพคะ เลยคิดว่า อยู่กับเขาอาจช่วยให้สบายใจขึ้นบ้าง”
“งั้นหรือ อย่างงี้นี่เอง”
“ยังไงซะ ไม่นานหม่อมฉันคงกลับมา แต่จะคอยส่งข่าวมาถวายอยู่เสมอ แม้แต่ฝ่าบาทเองก็ต้องหมั่นเขียนจดหมาย ให้คนส่งข่าวถึงหม่อมฉันบ้างนะ เพคะ”
“ไม่ล่ะ ข้าจะไปหาเจ้า”
“ฝ่าบาท”
“ตั้ง 4 เดือนเชียวนะ ใครจะยอมจากเจ้าตั้งนานขนาดนั้น ยังไงข้าจะหาเวลาไปเยี่ยมเจ้าให้ได้”
เทซูรีบกลับมาทูลพระเจ้าจองโจ เพื่อยับยั้งไม่ให้พระสนมซองซงยอนเดินทางออกนอกวังหลวง แล้วเทซูก็ตามไปขวางขบวนของพระสนมซองซงยอน
“เทซู”
“หึ เพราะอย่างงี้ใช่ไหม เป็นเพราะเรื่องนี้ ถึงขอให้หม่อมฉันอย่าพูดอะไร ออกมา ฮือ แล้วทรงคิดว่า จะปิดบังทุกคนไปถึงเมื่อไหร่กัน ฮือ จนกว่าพระสนม ฮือ จะ ฮือ จะไปจากโลกนี้หรือ ฮือ และถึงตอนนั้น ฮือ ก็ยังจะปิดฝ่าบาทไม่ให้ ทรงทราบความจริงหรือไง”
พระสนมซองซงยอนร้องไห้ออกมา “ฮือ เทซู”
“ฮือ หันขบวนกลับวังเดี๋ยวนี้”
“เอ่อ เทซู”
“ไม่ได้ยินหรือไง นี่คือพระบัญชาของฝ่าบาท ยังไม่รีบพาพระสนมกลับไปอีก”
เมื่อกลับถึงวังหลวง พระเจ้าจองโจทรงรอพบพระสนมซองซงยอน
“ฝ่าบาท”
” เพราะอะไร ทำไมถึงทำแบบนี้ โรคเนื้อร้ายหรือ ทำไมเจ้าถึง เป็นโรคแบบนี้ได้ ฮือ แถมยังปิดบัง ไม่ให้ข้ารู้อีก โดยการออกจากวัง เจ้าไม่คิดว่า นี่เป็นการโหดร้ายต่อข้าหรือ”
“ฮือ ฝ่าบาท ฮือ หม่อมฉันแค่อยากรักษาลูกไว้ ฮือ จะด้วยวิธีไหนก็ตาม หม่อมฉันก็จะรักษาลูกเอาไว้เพคะ”
“ทำแบบนี้ เจ้าต้องแลกด้วยชีวิตเชียวนะ เพื่อลูกของเรา เจ้าอาจต้องตาย เพื่อจะมีเขางั้นหรือ ลูกจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ ทำไมเจ้าถึง”
“ไม่หรอกเพคะ ฮือ หม่อมฉันไม่อาจทำใจได้ หม่อมฉัน ไม่อยากสูญเสียลูกคนนี้ไปอีก”
“ซงยอน”
” ในวันที่ เซจาจากเราไป ฮือ หม่อมฉันได้ฝันถึงเขา เขามาหา ฮือ และบอกหม่อมฉันว่า จะกลับมาอีก หม่อมฉันได้ยินเขาพูด ฮือ เพราะฉะนั้น ลูกคนนี้ ฮือ ต้องเป็นเซจามาเกิดใหม่ ฮือ”
พระเจ้าจองโจทรงอึ้ง “ซงยอน”
“ฮือ มันเป็นโรคที่รักษาไม่หายอยู่แล้ว ฝ่าบาทก็ทรงทราบ หม่อมฉัน ไม่อยากให้ตัวเองมีชีวิตยืนยาว โดยการแลกกับลูก หม่อมฉัน ไม่อยากเป็นแม่ที่ แม้จะแค่ปกป้องลูกตัวเองยังทำไม่ได้เพคะ ฉะนั้น ฮือ ฝ่าบาทโปรดอย่าทรงขัดใจหม่อมฉันอีกเลย ให้หม่อมฉัน อยู่จนกว่าจะคลอดลูกเถอะเพคะ ฮือๆๆ”
“ถ้าอย่างงั้น แล้วข้าจะทำไง เจ้า จะไม่เป็นห่วงข้าบ้างหรือ ถ้าเสียเจ้าไป ข้าจะอยู่ได้ยังไง เจ้าไม่คิดถึงจิตใจข้าใช่ไหม”
“ฮือๆๆ ฝ่าบาท”
” ข้าไม่อาจขาดเจ้าได้ เข้าใจหรือเปล่า ถ้าข้ายังอยู่ ยังไงก็ไม่ให้เจ้าไปก่อน เจ้าต้องกินยาประทังไว้ พรุ่งนี้ ไม่ใช่ ต้องกินยาเดี๋ยวนี้ ข้าจะรักษาเจ้าก่อน เข้าใจมั้ย ฮือ”


“ฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาทๆ ฮือๆๆ ฮือๆๆ ฝ่าบาท ฮือๆๆ”
พระเจ้าจองโจทรงมีรับสั่งกับแชจีคยอมว่า
“ใครที่ไม่ตั้งใจรักษาพระสนม ให้ปลดจากตำแหน่งและไต่สวนเอาผิดด้วย”
“พะยะค่ะ”
” และให้คนไปติดประกาศทั่วเมือง ใครมีวิธีรักษาโรคนี้ก็เสนอมา ไม่ว่าเป็นหมอที่ไหนก็ช่าง ขอเพียงรักษาโรคนี้ได้ ให้มาพบข้าในวังให้หมด เข้าใจมั้ย”
“พะยะค่ะ”
โชบีรู้ข่าวก็รีบไปรายงานพระสนมซองซงยอน
“พระสนม ฝ่าบาทมีรับสั่ง ไม่เพียงระดมความคิดจากหมอหลวง ยังให้ทหารออกไปหาหมอชาวบ้านที่เคยรักษาโรคแบบนี้มาเข้าเฝ้าด้วยเพคะ หึ หม่อมฉันเชื่อว่า พระสนมต้องทรงหายดี พระสนมต้องทรงเข้มแข็ง อย่ายอมแพ้ง่ายๆ นะเพคะ”
“พระสนม พระพันปีเสด็จมาเพคะ”
“เสด็จแม่”
“หึ ซงยอน”
“โรคของหม่อมฉัน ได้ยินว่าเข้าถึงภายในจนไม่อาจเยียวยาได้อีกแล้วเพคะ ไม่ว่าหมอคนไหนก็ตาม คงไม่อาจรักษาได้อีก”
“ซงยอน ทำไมพูดท้อแท้อย่างงั้นล่ะ เจ้าต้องเข้มแข็งไว้ ฝ่าบาทกำลังหาหมอจากทั่วเมืองมา ข้าเชื่อว่า ยังไงต้องมีทางรักษาแน่”
“หม่อมฉันรู้ตัวเองดีเพคะ แต่ว่า ลูกในท้องยังพอมีทางรอดได้ ไม่น่าห่วง ขอเพียงหม่อมฉันไม่กินยาเท่านั้น ไม่แน่ว่า ลูกอาจจะออกมาอย่างปลอดภัยก็ได้เพคะ”
“ซงยอน”
” ฮือ หม่อมฉันจึงอยากทูลขอ ให้เสด็จแม่ ช่วยไปเกลี้ยกล่อมฝ่าบาทให้ที เพื่อให้หม่อมฉันได้รักษาลูกไว้ ขอให้ฝ่าบาท อย่าทรงเสียแรงเปล่าอีกเลยเพคะ”
พระพันปีเฮคยองทรงถอนพระทัย
“ฮือ เสด็จแม่เพคะ ฮือๆๆ ฮือๆๆ”
พระสนมซองซงยอนไม่ยอมกินยา จนพระเจ้าจองโจเสด็จมาและทรงบังคับให้กินด้วยพระองค์เอง
“ถือว่าขอร้องล่ะ ได้โปรด รีบกินยาเข้าไปเร็วเข้า”
“ฮือ ฮือ”
” ข้าขาดเจ้าไม่ได้ ถ้า ถ้าไม่มีเจ้า ข้าแทบไม่อยากอยู่ต่ออีก เจ้าเคย เคยพูดกับข้าว่า จะอยู่กับข้าชั่วชีวิต เจ้าเคย สัญญากับข้าไว้ ชาตินี้จะไม่มีวันทิ้งข้าไป”
“ฮือ ฮือ ฝ่าบาท ฮือๆๆ ฮือ โปรดอย่าทรงทำแบบนี้ ฮือ อย่าทรงเสียพระทัย เพราะเรื่องของหม่อมฉันอีกเลยเพคะ ฮือๆๆ”
“ฮือ อยู่ต่อไป ได้ไหม ถือว่าข้าขอร้องเจ้า อยู่ต่อเพื่อข้าเถอะนะ ฮือ”
“ฮือ ฝ่าบาท ฮือๆๆ ฝ่าบาท ฮือๆๆ ฮือๆๆ ฝ่าบาท ฮือๆๆ”

จบดอนที่ 73

No comments:

Post a Comment