Sunday, 21 December 2008

Joseon Society

ในละครที่เกี่ยวพันกับเรื่องราวของราชวงศ์โชซอน สิ่งที่เห็นเด่นชัดก็คือโครงสร้างทางสังคมในยุคสมัยนั้น โดยเฉพาะระบบชนชั้น ซึ่งมักเป็นบ่อเกิดของเรื่องราวต่างๆ วันนี้ขอมาแนะนำให้รู้จักกับระบบชนชั้นทางสังคมในยุคสมัยนั้นกันนะคะ

อาณาจักรโชซอนเริ่มรวมตัวกันเป็นปึกแผ่นและสามารถครอบครองอำนาจในฐานะเป็น
ราชอาณาจักรหนึ่งเดียวและอยู่ได้นานถึง 518 ปี (ค.ศ. 1392 - 1910) จนกระทั่งถูกญี่ปุ่นยึดครองเป็นอาณานิคม

ในปี ค.ศ.1404 ได้มีการทำสำมะโนประชากรขึ้นเป็นครั้งแรก ในครั้งนั้นอาณาจักรโชซอนมีครัวเรือนทั้งสิ้น 174,132 ครัวเรือน และมีประชากร 360,929 คน มีตำแหน่งข้าราชการรวม 820 ตำแหน่ง ส่วนตำแหน่งทางทหารมี 4,000 ตำแหน่ง จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ทำงานในกองทัพมีมากกว่า อย่างไรก็ตาม ในบทบัญญัติของขงจื้อมักจะเน้นถึงความสำคัญของนักปราชญ์และข้าราชการเหนือกว่าผู้ใช้อาวุธ ดังนั้น ข้าราชการในราชสำนักผู้ซึ่งมีทั้งความรู้และดำรงตำแหน่งในทางราชการจึงได้รับการยกย่องจากกษัตริย์และผู้คนทั่วไปว่าเป็นผู้ที่มีเกียรติทางสังคมสูง

สังคมในยุคนั้นได้มีการแบ่งชนชั้นออกเป็น 4 ชนชั้น ดังนี้

(1) ยังบัน (Yanban) ชนชั้นนี้เป็นชนชั้นสูงสุด ประกอบด้วยเชื้อพระวงศ์และราชตระกูลในราชสำนัก รวมทั้งขุนนางชั้นผู้ใหญ่ซึ่งแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ ข้าราชการพลเรือน เรียกว่า มุนบัน (Munban) ข้าราชการทหาร เรียกว่า มูบัน (Muban)

คำว่า ยังบัน นั้นหมายถึง ชนชั้นสูงทั้งสองกลุ่ม พวกยังบันนับว่าเป็นพวกที่มีอำนาจสูงสุดที่ห้อมล้อมองค์พระมหากษัตริย์ ในขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจเพราะเป็นทั้งเจ้าของที่ดินและเป็นนายทาสและแรงงานที่อาศัยอยู่ในชนบทการเข้าสู่ตำแหน่งยังบันได้นั้นจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการเช่นเดียวกับระบบของจีน (สอบจอหงวน) ในกรณีของเกาหลีแม้ไม่ได้กำหนดสิทธิในการสอบไล่ไว้เฉพาะชนชั้นยังบัน แต่คนธรรมดามีโอกาสน้อยมากที่จะสามารถสอบผ่านเข้าไปได้ เป็นเพราะบุตรหลานของชนชั้นสูงมักจะได้รับการศึกษาจากสถานศึกษาชั้นดีตั้งแต่เล็ก ๆ และได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ที่มีพื้นฐานเป็นชนชั้นสูงอยู่แล้ว ทำให้ผู้สอบไล่ได้กระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มยังบันเป็นส่วนใหญ่ จึงดูเสมือนว่าเกาหลีจำกัดสิทธิในการสอบไล่ไว้ให้กับพวกยังบันเท่านั้น

ในกลุ่มยังบันด้วยกันก็มีการแบ่งสถานภาพและโอกาสทางสังคมตามพื้นฐานทางครอบครัวของแต่ละคน ผู้ที่มีโอกาสดีที่สุดก็คือผู้ที่ถือกำเนิดเป็นบุตรชายที่เกิดจากภรรยาหลวงที่ถูกต้องตามกฎหมายของสังคม และผู้ที่เป็นบุตรชายที่เกิดจากอนุภรรยาที่ผ่านงานพิธีสมรส บุตรที่มาจากสองกลุ่มนี้เท่านั้นจะมีสิทธิเรียนรู้วิทยาการของขงจื้อและเข้าสอบไล่ถึงขั้นสูงสุด เพื่อสืบทอดอำนาจและตำแหน่งของบรรพบุรุษ ส่วนเด็กที่เกิดจากภรรยาลับหรืออนุภรรยาที่ไม่ผ่านพิธีสมรสจะถูกจำกัดให้ประกอบอาชีพเป็นช่างชำนาญการหรือชนชั้นกลางไป

สรุปแล้วยังบันเป็นชนชั้นสูงของสังคมและมีการถ่ายทอดฐานะทางสังคมโดยผ่านทางสายเลือดหรือสายตระกูลเป็นหลัก ชนชั้นนี้จะมีอาชีพที่มีเกียรติทางสังคมเช่น เป็นขุนนาง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักปราชญ์ และแม่ทัพนายกอง ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้มักครอบครองอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจพร้อม ๆ กันไป

(2) ชุงอิน (Chungin) หรือชนชั้นกลาง ชนชั้นนี้จะได้รับการฝึกฝนในวิชาชีพ ช่างชำนาญการในด้านเทคนิคและวิทยาศาสตร์ รวมทั้งภาษาต่างประเทศเพื่อประกอบอาชีพที่ตรงกับสาขาวิชาดังกล่าวตามความต้องการของรัฐบาล หน้าที่การงานเหล่านี้ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของพวกยังบัน เพราะถือว่าเป็นงานที่ต่ำกว่า ซึ่งต้องทำงานอยู่ใต้อำนาจของชนชั้นสูง

ลูกหลานของชนชั้นกลางจะสืบทอดสถานภาพทางสังคมโดยผ่านทางสายเลือดหรือสายตระกูลเช่นกัน อาชีพที่พวกเขาทำมักเป็นข้าราชการระดับกลางที่เน้นความสามารถเฉพาะทาง และถือเป็นแขนขาของรัฐบาลหรือราชสำนัก จำนวนของชนชั้นกลางมีไม่มากนัก

(3) ซังมิน (Sangmin) หรือพวกสามัญชน และยางมิน (Yangmin) หรือชาวนา คนในชนชั้นนี้เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมที่ประกอบอาชีพเป็นชาวนาและพ่อค้ารายย่อย ทั้งนี้เพราะสังคมเกาหลีในยุคนั้นเป็นสังคมเกษตรกรรม ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกมีอยู่อย่างจำกัดและล้วนเป็นของตระกูลยังบันที่มีตำแหน่งหน้าที่สูงทางราชการแทบทั้งสิ้น พวกชาวนาจึงต้องเช่าที่นาโดยเสียค่าเช่า ภาษีที่ดินและภาษีผลผลิตเพื่อนำส่งไปให้แก่ราชสำนัก

การเก็บภาษีมักกระทำหลายขั้นตอน และเป็นช่องทางให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคสามารถขูดรีดและเบียดบังเงินภาษีอากรไปเป็นของตน จนบางครั้งทำให้ผู้เช่าที่ดินกลายสภาพเป็นทาสติดที่ดินไปในที่สุด

ส่วนพ่อค้านั้นก็มีบทบาทไม่มากนักเพราะการค้าถูกจำกัดให้กระทำภายในเขตของแต่ละหมู่บ้าน นอกจากนี้ ลัทธิขงจื้อมักเหยียดหยามอาชีพพ่อค้าที่แสวงหาผลกำไรว่าเป็นงานที่ต่ำและน่ารังเกียจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสามารถแสวงหาผลกำไรได้ ทำให้พ่อค้าได้รับการคุ้มครองจากชนชั้นสูงโดยใช้ทรัพย์สินเป็นใบเบิกทางในงานอาชีพและดำเนินชีวิตในสังคม

ในยุคใดที่กษัตริย์และขุนนางประสงค์ที่จะให้บ้านเมืองสงบสุข สามัญชนมักจะได้รับการเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขโดยไม่ถูกกดขี่ข่มเหงหรือรีดไถจากพวกยังบันมากนัก ในทางตรงกันข้าม ในยุคที่ราชสำนักขาดเสถียรภาพเพราะมีการขับเคี่ยวชิงดีชิงเด่นระหว่างเชื้อพระวงศ์และยังบันแต่ละกลุ่ม ชนชั้นนี้ย่อมได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะจะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารและถูกเร่งรัดเก็บภาษีในอัตราสูง จึงทำให้เกิดการลุกฮือก่อการจลาจลของชาวนาเสมอ

คนในชนชั้นนี้ที่เป็นชายวัย 16 - 60 ปีจะต้องไปเป็นทหารในช่วงหนึ่งของชีวิต และจะต้องไปทำงานให้กับรัฐบาลปีละ 6 วัน แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาต้องทำงานมากกว่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับโครงการที่ไปทำ ดังเช่น งานซ่อมแซมถนนและหลุมฝังศพของกษัตริย์ สร้างเขื่อนกันน้ำท่วม ขุดเหมืองฝาย และสร้างป้อมปราการ จึงต้องทำงานหลายวันจนกว่าโครงการนั้นจะเสร็จสิ้น

ลูกหลานของสามัญชนอาจเลื่อนฐานะทางสังคมได้บ้างหากสามารถสอบไล่ผ่านเข้ารับราชการในระดับท้องถิ่น แต่จำนวนผู้สอบผ่านมีน้อยมาก ทำให้การสอบไล่ได้แต่ละครั้งสร้างความฮือฮาและกลายเป็นตำนานเล่าขานกันไม่รู้จบของคนในตระกูลนั้นๆ

(4) ชอนมิน (Chonmin) หรือผู้ถือกำเนิดต้อยต่ำ เป็นชนชั้นต่ำสุดของสังคม ประกอบไปด้วยทาส พวกเต้นรำและนักแสดง คนทรง และคนฆ่าสัตว์ (อย่างเช่นคิมชูซอนที่ถือว่าเป็นลูกคนทรง) สถานภาพของพวกเขาจะตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ชนชั้นต่ำเหล่านี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม บางครั้งจะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของชนชั้นอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นคนฆ่าสัตว์ซึ่งต้องแยกอยู่ในหมู่บ้านเองต่างหาก

ทาสมีหลายประเภท ได้แก่ ทาสของรัฐบาล ทาสของตระกูล และทาสของเอกชน ทาสเหล่านี้ได้แก่ลูกที่ถือกำเนิดจากมารดาที่เคยเป็นทาสมาก่อน หรือเป็นผู้ที่ขายตัวหรือที่ถูกบิดามารดานำมาขายเป็นทาส หรือเป็นเด็กทารกที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งอันเป็นผลมาจากการเกิดจากการมีความสัมพันธ์ที่ไม่เปิดเผยตามประเพณี เป็นต้น

ชนชั้นต่ำเหล่านี้จะไม่ถูกกำหนดให้เสียภาษี หรือไปทำงานให้กับรัฐบาลหรือต้องไปเป็นทหาร ทั้งนี้เพราะไม่ถือว่ามีสิทธิเท่าเทียมกับในชนชั้นอื่น ทาสของรัฐบาล จะต้องทำงานในโรงงานของรัฐในการผลิตสิ่งของประเภทต่าง ๆ และทำงานรับใช้เหล่าข้าราชการ ทาสของเอกชนจะทำงานเป็นผู้รับใช้ในบ้านของผู้เป็นนายและต้องทำงานขุดดินแบกหามในไร่นาของเจ้าของนายทาส

ผู้ที่อยู่ในชนชั้นต่ำจะแต่งงานกับคนในชนชั้นอื่นไม่ได้ ดังนั้น การเลื่อนชั้นทางสังคม จึงเป็นไปได้ยากมาก ในปี ค.ศ. 1650 มีทาสทั้งหมดรวม 200,000 คนจากจำนวนประชากรทั้งสิ้นราวสองล้านคน ส่วนในปี ค.ศ. 1717 ประชากรของเกาหลีมี 6,846,568 คน มีทาสทั้งสิ้นราว 350,000 คน
และมีกฎทางสังคมที่ห้ามมิให้มีการแต่งงานข้ามชนชั้นเด็ดขาด ตัวอย่างเช่น ยังบันจะแต่งงานได้กับเฉพาะพวกยังบันด้วยกันเท่านั้น หากมีการแต่งงานข้ามชนชั้นเกิดขึ้น ผู้นั้นก็จะได้รับการลงโทษอย่างหนัก (อย่างเช่นในแดจังกึม) การนับชนชั้นของเด็กที่เกิดจะยึดสถานภาพของมารดาเป็นหลัก โดยไม่คำนึงว่าผู้เป็นบิดาจะเป็นคนในชนชั้นใด

จริงอยู่ที่มีการนำระบบการสอบไล่เพื่อเข้ารับราชการของจีนมาใช้นับตั้งแต่ยุคต้น
ของราชวงศ์ยี (ยี่ซานก็เป็นหนึ่งในกษัตริย์ราชวงศ์ยี) แต่โอกาสของชนชั้นต่ำที่จะเลื่อนฐานะทางสังคมตามระบบนี้มีน้อยมาก เพราะการแบ่งชนชั้นของเกาหลีในยุคนั้นเป็นไปอย่างเข้มงวดมากและมีกฎเกณฑ์มากมายที่ทำให้คนในแต่ละชนชั้นจำเป็นต้องมีชีวิตในกรอบของชนชั้นของตน


สถานการณ์ในยุคนั้นก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง 2 ประการในหมู่ชนชั้นสูง คือ
(1) การสร้างสมฐานะตามสายตระกูลของยังบันก่อให้เกิดการแย่งชิงผลประโยชน์กับ
กษัตริย์หรือของชาติ

และ (2) จำนวนลูกหลานยังบันเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี แต่ตำแหน่งทางราชการมิได้ขยายตัวรองรับกับจำนวนที่เพิ่ม ทั้งนี้เป็นผลมาจากการสอบไล่ที่มักคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถจริง ๆ และจำกัดจำนวนผู้สอบผ่าน ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็นก๊ก ๆ ในขณะเดียวกันก็มีการขัดแย้งระหว่างเหล่ายังบันสูงอายุที่ยึดมั่นตามแนวอนุรักษ์นิยมกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งข้อขัดแย้งเหล่านี้เป็นผลมาจากการนับถือลัทธิขงจื้อที่คนกลุ่มหนึ่งยึดแนวทางหลักของจีนเป็นแนวปฏิบัติ ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งแปลความหมายของลัทธินี้ตามบริบทหรือบนพื้นฐานของสังคมเกาหลี

ความวุ่นวายดังกล่าวก่อให้เกิดการแตกแยกและเกิดกบฎของชนชั้นต่ำเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ
และการเอารัดเอาเปรียบในสังคม กบฎที่มีชื่อเสียงมากในยุคตอนกลางคริสต์ศตวรรษที่
16 คือกบฎที่นำโดย อิมค็อกชอง ที่รวบรวมชาวนายากจนปล้นสดมภ์บ้านเรือนของยัง
บันและข้าราชการที่ร่ำรวย แล้วนำเอาทรัพย์สินที่ได้มาแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ นอกจากนี้
ยังบุกยึดคลังอาหารของรัฐบาลในจังหวัดเคียงกิและฮวงเฮ แล้วนำไปมอบให้กับผู้หิวโหย
ในที่สุดทางการจับได้และประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1562 แต่อุดมการณ์และชื่อเสียงของเขา
ระบือไปทั่ว จนมีผู้นำเรื่องราวไปเขียนเป็นนิยายชื่อ นิยายของฮงกิลดงนั่นเอง (The Tale of
Hong Kil-Tong)


Copyright by Ladymoon
(เรียบเรียงจากบทความของ รศ. ดร. ดำรงค์ ฐานดี
ผู้อำนวยการศูนย์เกาหลีศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง)

Saturday, 20 December 2008

Introduction to Yi San [The Drama]

Yi San is a South Korean historical drama with 77 episodes, aired on MBC every Monday and Tuesday on 9:55 P.M. Yi San had a big success and ending up in MBC Acting Awards with "Top Excellence Acting Award" for Lee Seo Jin and "Best Actress" for Han Ji Min, nominated also for MBC Best Drama but lost to “The Legend”. The drama has bit another historical drama, The King and I for its ratings and performances and is reaching very high in ratings, keeping 2nd and 3rd and on some nights, getting 1st.

Yi San dramatizes the life of Korea's King Jeongjo, the 22nd ruler of the Joseon Dynasty. Jeongjo is remembered in Korean history for his sympathy with the plight of the common man, in spite of his own pampered upbringing as royalty.

The drama begins with the King's early years, during which he befriends two children working in the Palace who are later expelled. King Yeongjo (Jeongjo's grandfather) seals Jeongjo's father, Crown Prince Sado, in a rice storage chest with no food or water because he fears that the crown prince is planning a coup. Jeongjo wants to save his father, and with the help of his friends Song Yeon and Dae Su, begs Yeongjo to forgive the Crown Prince. The drama then skips forward to Jeongjo's adult years when he and his friends re-establish contact with each other. Throughout, Jeongjo's position as Crown Prince is threatened by palace intrigues.

While still the Crown Prince, Jeongjo begins to fall in love with one of his childhood friends, Sung Song Yeon, whose father, a palace artist, died when she was very young. The story then follows Yi San's rise to power, his assumption of the kingship, and the labyrinthine palace intrigues that he must constantly guard against. While the show does deviate from the historical record in a number of ways, it's representation of court life during the Joseon Dynasty appears to be based on contemporary sources.

ยี่ซาน (หรือลีซาน) เป็นละครอิงประวัติศาสตร์ของเกาหลี ความยาว 77 ตอน ออกอากาศทางสถานี MBC ยี่ซานประสบความสำเร็จอย่างยิ่งบนเวที MBC Award ปี 2007 โดยลีโซจิน ผู้รับบทยี่ซาน ได้รับรางวัลสาขา “นักแสดงยอดเยี่ยม” Top Excellence Acting Award และฮันจีมิน ผู้รับบทซงยอน ได้รับรางวัล “นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม” Best Actress และยังได้เข้าชิงรางวัลละครยอดเยี่ยม Best Drama ด้วย แต่ต้องพ่ายให้กับ The Legend ละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ซึ่งนำแสดงโดยดารายอดนิยม เบยงจุน

ยี่ซานเป็นเรื่องราวชีวิตของกษัตริย์จองโจ กษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งราชวงศ์โชซอน ในประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่ากษัตริย์จองโจทรงเข้าพระทัยชาวบ้านผู้ยากไร้ แม้จะทรงถือกำเนิดในราชนิกูลสูงศักดิ์
เรื่องราวเริ่มขึ้นในวัยเยาว์ของยี่ซาน ทรงพบสหายร่วมเป็นร่วมตาย 2 คนเมื่อครั้งอยู่ในวัง แต่ต่อมาทั้ง 2 คนถูกขับออกจากวัง ในขณะนั้นกษัตริย์ยองโจ (เป็นปู่ของยี่ซานหรือกษัตริย์จองโจในอนาคต) ได้สั่งขังพระโอรสของตัวเอง รัชทายาทซาโด (พระบิดาของยี่ซาน) ไว้ในลังข้าว โดยไม่ให้อาหาร ไม่ให้น้ำดื่ม ด้วยความระแวงว่าพระโอรสจะคิดชิงราชบัลลังก์ องค์ชายยี่ซานต้องการช่วยพระบิดา พระองค์กับสหายทั้ง 2 คือซงยอนและแทซู จึงหลบหนีออกจากวังเพื่อไปร้องทุกข์ต่อกษัตริย์ยองโจเพื่อให้ทรงอภัยโทษต่อองค์รัชทายาท แต่ก็สายเกินไป สุดท้ายทั้งซงยอนและแทซูจึงถูกขับออกจากวัง แต่สหายทั้ง 2 ยังให้สัญญาว่าจะกลับมาหาพระองค์ให้ได้


เมื่อองค์ชายยี่ซานเจริญพระชันษาขึ้น และได้กลายเป็นองค์รัชทายาท แต่ต้องถูกคุกคามหมายเอาชีวิตจากผู้ประสงค์ร้ายตลอดเวลา สำหรับซงยอน เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ จึงเข้ามาเป็นทาสรับใช้ในกรมช่างศิลป์ ทั้งๆ ที่ตัวนางเองมีฝีมือด้านการวาดภาพซึ่งได้รับถ่ายทอดมาจากบิดาผู้ล่วงลับซึ่งเคยเป็นจิตรกรหลวง และแทซู ซึ่งมีฝีมือด้านการต่อสู้ จึงตัดสินใจมาสมัครเป็นทหารองครักษ์ สหายรักทั้ง 3 จึงกลับมาพบกันอีกครั้ง และร่วมกันฝ่าฟันเพื่อให้ยี่ซานขึ้นสู่บัลลังก์กษัตริย์

“ยี่ซาน” ละครอิงประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงชีวิตของหนึ่งในกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์โชซอน กษัตริย์จองโจ ผู้สร้างป้อมฮวาซอง ป้อมปราการอันยิ่งใหญที่ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก นอกจากละครเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของกษัตริย์ผู้มีความสำคัญยิ่งพระองค์หนึ่ง ยังสะท้อนให้เห็นความรักความผูกพันระหว่างมิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง คนรัก รวมทั้งการแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก เล่ห์เหลี่ยมกลโกงต่างๆ จึงนับได้ว่าเป็นละครที่เต็มไปด้วยรสชาติอันหลากหลายและน่าติดตามชมยิ่งนัก

“ยี่ซาน” คับคั่งไปด้วยเหล่าดาราที่เราคุ้นหน้าคุ้นตา อาทิเช่น ปาร์คอึนเฮ (เยินเซ็งจากแดจังกึม)ในบทพระมเหสีของยี่ซาน คยอนมีรี (แชซังกุงจากแดจังกึม) ในบทพระมารดาของยี่ซาน ลีชางฮุน (นายช่างใหญ่จากซอดองโย) ในบทรัชทายาทซาโด และดาราอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับดารานำอย่างลีโซจิน (ยี่ซาน) และฮันจีมิน (ซงยอน) รางวัลที่ได้รับคงพอการันตีฝีมือการแสดงของคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้กำกับละครเรื่องนี้ก็คือ ลีบยองฮุน ผู้กำกับเรื่อง แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง และซอดองโย สายใยรักสองแผ่นดิน ที่เราเคยประทับใจมาแล้วนั่นเอง

รางวัลที่ได้รับจากงาน MBC Award 2007

ลีโซจิน นักแสดงยอดเยี่ยม Top Excellence in Acting Award
ฮันจีมิน นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม Excellence in Acting Award
ปาร์คจีบิน ดาราเด็กยอดเยี่ยม Best Teen Actor Award (แสดงเป็นยี่ซานตอนเด็ก)
คิมยียอง เขียนบทยอดเยี่ยม Best Writer


[ขอขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia.org]

Photo from IMBC




Promise 약속 - 장윤정


약속 - 장윤정
约定 - 张润贞
Promise by Jang Yoon Jung
................................


기억 하나요 가슴 아픈 사연을
你还记得吗 那心痛的往事
Do you still remember, those very painful matters

내님 오실 날을 저울질 하나요
数着我的郎君归来的日子
Counting the days that my loved one would return

한참 후에야 그 마음을 알았죠
默然才发现心中的惆怅
Silently only then do I discover my disconsolateness

내가 아닌 곳에 머물러 있다는 걸
才明白您留在没有我的地方
Only then do I understood that you are staying at a place that does not include me

내게 올 순 없나요 사랑할 순 없었나요
无法回到我身边了吗 无法再相爱了吗
Could you not return to my side? Could you not fall in love again?

그대 헤일 수 없는 맘 나 였던가요
对您无尽的思念就是我的心
My heart is one that keeps you endlessly in my thoughts

잊지 말아요 가슴 아픈 사랑이
不要忘记 那心痛的爱情
Do not forget that painful love

슬퍼하는 날엔 내가 서 있을께요
当你痛苦的时候我会守护在你身旁
When you suffer I will be by your side to protect you

이대로 안되나요 돌아올 길 잊었나요
不能就这么停留吗 忘记回来的路了吗
Could we not stop here? Could we not forget the return path?

그대 헤일 수 없는 맘 나 였던가요
对您无尽的思念就是我的心
My heart is one that keeps you endlessly in my thoughts

잊지 말아요 가슴 아픈 사랑이
不要忘记 那心痛的爱情
Do not forget that painful love

슬퍼하는 날엔 내가 서 있을께요
当你痛苦的时候我会守护在你身旁
When you suffer I will be by your side to protect you

......................................................

Sung words...

약속 - 장윤정
Yak-sok [Promise]by Jang Yoon Jung

gi-eok ha-na-yo ga-seum a-peun sa-yeo-neul
nae-nim o-sil na-reul jeo-ul-jil ha na yo


han-cham hu-e-ya geu ma-eu-meul a-rat-jjyo
nae-ga a-nin go-se meo-mul-leo it-tta-neun-geol

nae-ge ol-sun eom-na-yo sa-rang-hal sun eop-sseon-na-yo
geu-dae-he il-su eom-neun-mam na yeot-tteon-ga-yo

it-jji ma-ra-yo ga-seu-ma-peun sa-rang-i
seul-peo ha-neun na-ren nae-ga seo i-sseul-kke-yo

nae-ge-ol sun eom-na-yo sa-rang-hal sun eop-sseon-na-yo
geu-dae-he il-su eom-neun-mam na yeot-tteon-ga-yo

i-dae-ro-an doe-na-yo do-ra-ol-gil i-jeon-na-yo
geu-dae-he il-su eom-neun mam na yeot-tteon-ga-yo

it-jji ma-ra-yo ga-seu-ma peun sa-rang-i
seul-peo ha-neun na-ren nae-ga seo i-sseul-kke-yo


Roytavan : Romanize

mms://aod.mylisten.com/aod/6/89/082689_1070553.wma


This song from Yi San - King Jeong Jo